วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อะไรกันน้า... ที่ทำให้ชิคาโก้ส์ บูล มีเกมรับที่ดีที่สุดใน NBA

ที่มา : http://bleacherreport.com/
แปลโดย : Tiger Sky

ตั้งแต่ทอม ทิบอโด เข้ามาสู่ทีมชิคาโก้ บูลส์ พวกเขาก็กลายเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในเอ็นบีเอ อะไรเป็นความลับสู่ความสำเร็จนั้น และทำไมพวกเขายังเก็บชัยชนะได้เรื่อยๆ แม้จะไม่มีเดอริก โรส



ขั้นแรก เราไปดูที่สถิติย้อนหลังใน NBA ก่อน เราก็จะเห็นว่าบูลส์มีสถิติเกมรับที่ดีที่สุด ตามลิ้งค์ และไปดูสถิติการชูตฟิลโกลของผ่ายตรงข้ามซิ เพียง 45.8 เท่านั้น

ความลับของเขาคือ ใช้วิธีป้องกันการชูต ซึ่งจะทำอย่างหน้าแน่นเมื่ออยู่ในกรอบสองแต้ม และก็จะเบาบางลงหลังเขตสามแต้ม

เมื่อทีมจะชูตสามแต้ม บูลส์จะบีบให้คู่แข่งต้องถ่ายบอลไปเรื่อยๆ ให้กับผู้เล่นที่ไมได้เป็นตัวชูต หรือให้กับผู้เล่นที่ชอบเล่นวงใน นี่ก็เป็นความลับที่ทำให้บูลส์เป็นทีมที่ทำให้คู่แข่งมีเปอร์เซ็นต์การชูตวงนอกได้น้อยที่สุดตั้งแต่ทอม ทิบอโด เข้ามาเป็นโค้ชใหญ่

และเพื่อทำให้ทีมคู่แข่งชูตยากขึ้น พวกเขาจะใช้วิธีปิดตั้งแต่วงนอกและป้องกันการเลี้ยงเข้ามา ตัดช่องการจ่ายบอล และประกบติดบีบให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามชูตไม่ลง

และนี่ก็เป็นภาพตัวอย่างจากนัดที่เจอกับนิวยอร์ค นิก ที่พวกเขาตั้งโซนเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม



ในภาพแรก เมื่อเจสันคิดได้บอล จะสังเกตุเห็นว่าไทสัน เชนเลอร์และคาเมโล่ แอนโทนี่จะถูกตัดออกจากเฟลมการเล่นโดยโจอาคิม โนอาร์(อยู่ใต้แป้นด้านบน) และลูอัล แดง(บริเวณชูตจุดโทษ)

เคิร์ก ฮินริช (ให้สังเกตที่ขาขวาของเขาที่อยู่หลังแดง) ก็กำลังตามประกดเรยมอน เฟลตันอยู่ แต่สังเกตุว่า ทำไมเขาจะคอยประกบฝั่งซ้ายของเฟลตัน เนื่องจากถ้าเฟลตันจะส่งหรือเลี้ยงเข้าวงใน เขาจะต้องมาทางซ้ายไม่ใช่ทางขวา

คุณสามารถสังเกตุเหตุการณ์เดียวกันในภาพกับมาร์โก้ เบลลิเนลลี่ที่ตามประกดเจสัน คิด อยู่เขาตัดช่องทางการวิ่งของคิดไม่ให้สามารถไปทางขวาได้

นี่แหละเป็นสิ่งที่โค้ชต้องทำการบ้าน มันยากมากที่จะเจาะบูลส์จากตรงกลาง เนื่องจากพวกเขาจะคอยบีบให้คู่แข่งต้องไปเล่นทางอื่นแทน

นี่เป็นเบื้องต้นกับการกดดันให้คู่แข่งอยู่ในวงนอก



ในภาพที่สอง เชนเลอร์พาลูกมาทางด้านขวาของจอภาพ แต่โนอาร์(ที่อยู่ใต้แป้นด้านบน) ก็จะเข้าไปปิดระหว่างแชนเลอร์และก็ช่องที่สามารถส่งได้

จะเห็นว่าแอนโทนี่พยายามวิ่งฉีกไปทางขวา แต่แดงก็ตามออกไป และก็พาตัวเองไปอยู่ระหว่างบอลกับแอนโทนี่ ทำให้ไม่สามารถส่งบอลได้ แขนเขาจะอยู่ตรงช่องที่สามารถส่งได้เพื่อตัดการส่งบอล

ในขณะเดียวกัน เบลิเนลลี่ก็จะยืนในตำแหน่งที่ตัดช่องทางการส่งไปถึงบรูเวอร์ ทำให้ตอนนี้มีทางเดียวที่เฟลตันจะทำได้คือการส่งกลับมาที่เจสัน คิด คนที่ยืนออกห่างมาหน่อยจากบรูเวอร์(เสื้อขาวเบอร์ 5)

ภาพสองแสดงให้เห็นถึงการตัดช่องทางการส่ง นิกไม่สามารถเลี้ยงเข้าวงในหรือจ่ายเข้าวงในได้



และในตอนนี้บรูเวอร์ก็ได้บอล และช่องทางการจ่ายก็ถูกตัดออกไปหมดแล้ว ในขณะที่บูเซอร์เป็นคนประกดบรูเวอร์ แต่บรูเวอร์ก็ไม่ใช่ผู้เล่นในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ควรจะมีบอล บูเซอร์และโนอาร์ทำให้การจ่ายเข้ามาใส้กับแชนเลอร์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แดง(คนใต้แป้นบนสุด) ก้จัดการแอนโทนี่ให้หยุดอยู๋ตรงนั้น เบลิเนลลี่ตามคิดด์ และฮินริชก็ปิดช่องทางการส่งสู่เฟลตัน

บรูเวอร์จำเป็นต้องชูตจากตรงนั้น เพราะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้แล้ว และด้วยความชำนาญในการทำอย่างนี้ของบูลส์ในปีนี้ มันทำให้คู่แข่งต้องชูตพลาดอยู่เสมอ

เกมรับของบูลส์ไม่ใช่สิ่งพิเศษอะไร มันอยู่ที่พละกำลังและความอดทนต่างหาก อีกทั้งเขายังมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งได้ดีอีก ทั้งการบีบให้อยู่แต่ในวงนอก, ไม่ยอมให้เลี้ยงเข้ามาได้ง่ายๆ หรือการตัดช่องทางการจ่ายบอล

แค่นี้ก็ทำให้คู่แข่งมีเปอร์เซ็นต์การชูตที่ไม่ค่อยดีได้แล้ว มันไม่มีอะไรที่เป็นเทคนิกพิเศษเลย ดีกว่าการเล่นแรงๆ ซะอีก เนี่ยแหละเป็นเหตุผลว่า ทำไมบูลส์ที่ไม่มีซุเปอร์สตาร์อย่าง เดอริก โรสถึงชนะเกมได้มากมายเหลือเกิน


วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หลังเกม ชิคาโก้ บูลส์กับนิวยอร์ค นิก (พร้อมลิ้งค์ดูย้อนหลัง)

ที่มา : http://bleacherreport.com
แปลโดย : Tiger Sky
ดูย้อนหลังนัดนี้ได้ที่ http://sport-thai.blogspot.com/p/nba.html
(ตอนนี้ยังไม่อัพนะครับ เดี๋ยวอัพแล้วจะมาเปลี่ยนลิ้งค์อีกที)
และลิงค์ดาวโหลดที่นี่ครับ http://nbafile.com/nba-2012-12-21-chicago-bulls-vs-new-york-knicks/



การพบกันระหว่างทีมในกลุ่มอีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ระหว่างทีมชิคาโก้ บูลส์กับนิวยอร์ค นิก จบลงด้วยสกอร์ 110-106

นี่เป็นค่ำคืนของคาเมโล แอนโทนี่, ไทสัน แชนเลอร์, ไมค์ วูดสันและโจอาคิม โนอาร์ ที่โดนเทคนิเคิลฟาว นอกจากนั้นในเกมนี้ เจ.อาร์.สมิท ยังได้รับฟาวเอ้าไปอีกคน

เกมนี้ลูอัล แดงทำไป 29 แต้มกับ 13 รีบาวให้กับบูลส์ ซึ่งถือว่าทำลายเกมรับของนิกได้ตลอด 48 นาที ซึ่งวันนี้ดูโดดเด่นกว่าทุกคนในสนามเลยทีเดียว แต่ในเกมนี้แอนโทนี่และสมิทก็เล่นเกมบุกได้ดีไม่แพ้กัน

และเหมือนนิกจะหัวเสียกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนี้อย่างมาก ซึ่งไมค์ บีนได้กล่าวไว้ว่า

"  ทีมนิวยอร์คต้องเลิกโต้เถียงกรรมการบ้าง เลิกอธิบายกรรมการได้แล้ว และกลับไปเอาแต้มกลับคืนมาให้ได้ก็พอ "

นี่เป็นบางสิ่งที่ผิดพลาดของนิก เรามาดูคะแนนความสามารถของแต่ละคนในนัดนี้กัน

เคิร์ก ฮินริช, CHI, เกรด A

ชิคาโก้ บูลส์เริ่มเกมได้อย่างร้อนแรงด้วยการทำรัน 14-2 ในช่วง 5 นาทีแรกของควอเตอร์แรก ซึ่งเคิร์ก ฮินริชยิงสามแต้มลงไป 2 ครั้งและยังทำ 2 แอสซิส

และยังมีเรื่องที่น่าประหลาดใจอีกเรื่องคือในควอเตอร์ที่สาม ที่ฮินริชสามารถรันเข้าไปเลย์อัพได้อย่างสวยงาม ซึ่งสามารถทำให้เสียงแฟนบูลส์ที่ไม่ชอบเขาทั่วโลกเงียบลงไปได้พักใหญ่

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของฮินริชคือการยิงสามแต้ม แต่เรื่องการทำแต้มไม่ใช่เรื่องเด่นของฮินริชอยู่ดี

แต่เกมนี้ฮินริชเข้าใกล้การทำทริปเปิ้ล-ดับเบิ้ลอย่างมากเมื่อทำไป 16 แต้ม, 9 รีบาวกับ 8 แอสซิส ซึ่งเขาชูตไป 8 ครั้งลง 6 ครั้ง ยังต้องการอะไรจากเขาอีกล่ะนัดนี้

เรยมอน เฟลตัน, NYK, เกรด D+

ในช่วงครึ่งเวลาแรก เฟลตันเล่นได้ไม่ดีเอาซะเลย นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ในครึ่งแรกนิกต้องตามบูลส์อยู่ถึง 15 แต้ม

เฟลตันชูต 9 ลง 3 ในกรอบชูตและชูตสามแต้มไม่ลงเลย ซึ่งมีโอกาส 3 ครั้ง แถมเขายังเสียไป 3 เทิร์นโอเวอร์และไม่มีแอสซิสเลย

ที่จริง เฟลตันไม่มีแอสซิสเลยจนกระทั่งเหลืออีก 4.39 นาทีในควอเตอร์สุดท้าย มันช่างเป็นเกมที่ย่ำแย่อะไรเช่นนี้ของเฟลตัน

แต่เขาก็ยังกลับมาได้ ทำให้เขายังพอได้เกรดมาบ้าง แต่ต้องบอกว่า มาช้าไปมั้ย กว่าจะกลับมาเข้าฟอร์มได้ก็ปาเข้าไปจนจะจบเกม

21 แต้มกับ 3 แอสซิสกับการชูต 9-21 ไม่ได้อธิบายเรื่องรูปเกมของเขาอะไรเลยกับการเสีย 4 เทิร์นโอเวอร์กับไม่มีแอสซิสจะกระทั่งถึงท้ายควอเตอร์ 4

มาร์โก้ เบลิเนลลี่, CHI, เกรด B

เขามาเงียบๆ แต่กดไป 22 แต้ม

เบลิเนลลี่ชูตไปเพียง 5 ครั้ง แต่แต้มส่วนใหญ่เขามาจากการชูตลูกโทษด้วยสถิติ 11-12 นัดนี้มือปืนชาวอิตาลีทำไป 7 รีบาวกับ 2 สตีล สองสิ่งนี้แหละที่พอจะทำให้เขาเป็นที่จดจำได้บ้าง

แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะมีใครไปสนใจเขา แต่สำหรับแฟนนิกแล้ว สมควรจะจำชื่อนี้ไว้ให้มากๆ เพราะเบลิเนลลี่ลงเล่นไปไม่นาน แปปเดียว แต่ดูสิ่งที่เขาทำซิ อยากรู้เหมือนกันว่าเขาทำได้ยังไง

เจสัน คิด, NYK, เกรด C

เออ...คิดลงเล่นหรือเปล่าครับนัดนี้... #ล้อเล่นน่ะครับ

ดูจากสถิติในชีตของเขามันดูน่ารักเสียจริง แต่รู้หรือไม่คิดนั้นอยู่เต็มๆ ถึงสามควอเตอร์ เขาทำรีบาวได้เรื่อยๆ และก็มีสตีลอีกนิดหน่อย แต่คิดนั้นไม่ได้ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญช่วยเพื่อนในการทำคะแนนหรือมีส่วนเกียวข้องกับสกอร์บอกร์ดอะไรเลย

อย่างไรก็ตาม กับสามแต้มสำคัญถึงสองครั้งทำให้เกรดเขาไม่ตกลงไปมาก และคุณก็ควรรู้ว่า มันมาช้าเกินไป เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังของนิกในวันนี้เลย

ลูอัง แดง, CHI, เกรด A-

เกือบได้รับการบาดเจ็บและก็เสียเทิร์นโอเวอร์อีกนิดหน่อย ที่เหลือเขาก็ไม่มีข้อผิดพลาดอะไร

แดงจบด้วย 29 แต้ม, 13 รีบาวและชูตสามแต้มได้ไป 3 ครั้ง เขายังต้องมาดวลตัวต่อตับกับคาเมโล่ แอนโทนี่ เพื่อพิสูจน์ตัวเองในนัดนี้

สำหรับแดงแล้ว นี่เป็นการทำดับเบิ้ล-ดับเบิ้ลครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ และเป็นการทำเกิน 20 แต้มได้สองนัดติดต่อกัน

สำหรับการดวลครั้งนี้ ต้องขอยกมือให้แดงเป็นฝ่ายชนะคาเมโล่ไปด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์

รอนนี่ บรูเวอร์, NYK, เกรด D

รอนนี่ บรูเวอร์ลงเล่นไปเพียง 10 นาที และทำแต้ม +/- ติดลบไป -13 แต้ม คงไม่ต้องมีอะไรต้องพูดมากสำหรับเรื่องนี้

ไม่มีแต้ม, ไม่มีรีบาว, ไม่มีแอสซิส, ไม่มีสตีลและไม่มีบล็อก(มันลงเล่นจริงหรือเปล่าว่ะเนี่ย) อัตราการชูต 0-4 จากวงในและ 0-2 จากสามแต้ม

ถือว่าใจดีแล้วนะที่ให้เกรด D

คาร์เมโล่ แอนโทนี่, NYK, เกรด B-

เป็นเกมที่ตะกุกตะกักพอสมควรกับคาเมโล่ แอนโทนี่

ในช่วงควอเตอร์แรก แอนโทนี่ทำข้อผิดพลาดมากมาย หลังจากที่เขาไม่ได้รับฟรีโทรล และเมื่อเขากลับไปตั้งรับ ก็ปล่อยให้ลูอัล แดงชูตสามแต้มไปง่ายๆ ต่อหน้าต่อตา

นอกจากนั้น แอนโทนี่ก็ยังเสียเทคนิเคิลฟาว ทำให้บูลส์ได้ไปอีก 4 แต้มอย่างรวดเร็ว

ในครึ่งแรก แอนโทนี่มีสถิติชูต 6-15 และทำได้เพียง 1 รีบาวเท่านั้น แต้มส่วนใหญ่ของเขามาจากครึ่งหลังซะมากกว่า เมโลทำเกมบุกได้ดีและก็ระมัดระวังในเกมรับได้เยี่ยม

เป็นช่วงเวลากว่า 8 นาทีที่นิกไม่สามารถจ่ายเข้าวงในได้เลย แต่คาร์เมโล่ก็พยายามทะลวงเข้าไปเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก

และช่วงเวลาที่เหลืออีก 7 นาทีสุดท้าย แอนโทนี่ก็ดันมาโดนแทคนิเคิลฟาวครั้งที่สอง ทำให้ทีมนิกต้องขาดสองตัวทำแต้มสูงสุดไปในช่วงเวลาที่เหลือทั้งเขาและเจอาร์ สมิธ

อย่างไรก็ตาม ข้อคิดในเกมนี้สำหรับเมโลก็คือ การเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับผู้ตัดสินมันไม่ใช่เรื่องดีเลย

สุดท้ายแอนโทนี่ทำไป 29 แต้ม, 3 รีบาวกับ 1 แอสซิส ด้วยสถิติชูต 10 จาก 25

คาร์ลอส บูเซอร์, CHI, เกรด C+

มีคำถามมากมายว่าทำไมเขาถึงโดนถอดออกในควอเตอร์สุดท้าย โดยมีวลาดิเมียร์ รัดมาโนวิชเปลี่ยนเข้ามาแทน

บูเซอร์เล่นได้แข็งแกร่งเกมหนึ่ง โดยทำไป 9 แต้มกับ 7 รีบาวกับสถิติการชูต 4-6 เขาบล็อกไป 2 ครั้ง ทำไป 1 สตีลกับ 2 แอสซิสตลอด 25 นาทีที่เขาลงเล่น

และเขาก็ถูกเปลี่ยนออกโดยมีรัดมาโนวิชลงมาแทนในช่วงสั้นๆ และเขาก็มีสถิติ +/- ที่ดีมากอยู่ที่ +16 แต้ม

โจอาคิม โนอาร์, CHI, เกรด B-

ก็เหมือนกับที่เคยกล่าวเอาไว้กับสองคนที่ผ่านมาคือ มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยเลยเมื่อโนอาร์โดนไล่ออก

เมื่อโนอาร์โดนไล่ออกไป ทีมบูลส์ก็แทบพัง มันทำให้ทีมเล่นโดยใช้อารมณ์ ซึ่งทำให้พวกเขาเล่นไม่เหมือนในสามควอเตอร์แรกเลย

เล่นทำเอาทีมเกือบแพ้

โนอาร์ทำไป 15 แต้ม 12 รีบาวกับ 6 แอสซิส เขากำลังจะเป็นเซ็นเตอร์อันดับหนึ่งในกลุ่มอีกเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ และกำลังพัฒนาขึ้นอย่างมาก และมีการส่งบอลที่ดีขึ้นมาก

และการที่เขาไม่ได้เกรด A ก็มาจากการที่เขาโดนไล่ออกเนี่ยแหละ

ไทสัน แชนเลอร์, NYK, เกรด C

เขาไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับผู้นำทีมอย่างแชนเลอร์ และแถมยังมาโดนไล่ออกอีก

มีสิ่งเดียวที่ทำให้แชนเลอร์ไม่มีเกรดที่ต่ำลงไปกว่านี้ คือการแสดงออกของเขาในเกมนี้ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเขากำลังบาดเจ็บอยู่นิดหน่อย โชคดีเสียอีกที่สุดท้ายแล้วเขาโดนไล่ออก เพราะเขาจะได้พัก ไม่เจ็บไปมากกว่านี้

การเสียเทิร์นโอเวอร์ไป 3 ครั้งทำให้คะแนน +/- ของเขาติดลบ -16 แต้ม ชูต FG ได้เพียงหนึ่งครั้ง ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วครับกับสถิติแบบนี้

_________________________________ SIX MAN _________________________________

เจ.อาร์ สมิธ, NYK, เกรด B+

เจ.อาร์ สมิธ เป็นเหตุผลที่ทำให้นิกไม่โดนบูลส์หนีห่างไปมาก การทำ 6 แต้มในช่วงนาทีสุดท้ายในควอเตอร์แรก รวมถึงการได้ฟาวลงมา 3 แต้มหลังจากที่คาเมโล่ แอนโทนี่โดนเทคนิเคิลฟาวและยิงสามแต้มลงไปก่อนออดหมดเวลาดังขึ้น

จากการที่ไม่มีสมิธ ในควอเตอร์ที่สองบูลสามารถทำคะแนนทิ้งห้างออกไปเรื่อยๆ จนเกิน 20 แต้ม และโมเมนตัมดีมาก สุดท้ายบูลส์ก็เก็บแต้มในควอเตอร์ที่สองไป 24-16 และจะห่างกว่านี้ถ้าไม่มี เจ.อาร์

สมิธกลับมาอีกครั้งในควอเตอร์ที่สอง แต่เขาก็โดนฟาวครั้งที่สามไปอย่างรวดเร็ว

นัดนี้สมิธทำแต้มได้มากที่สุดที่ 26 แต้มและ 10 รีบาว แต่โชคร้ายที่กลางๆ ควอเตอร์ที่สี่ตอนเหลือเวลาอีกถึง 7.09 นาที เขาก็ต้องโดนไล่ออก

เขาเป็นความหวังของนิกในนัดนี้เลย

จิมมี่ บัตเลอร์, CHI, เกรด C+

นัดนี้ จิมมี่ บัตเลอร์ ลงเล่นมากที่สุดในฤดูกาลโดยเล่นไป 31 นาที นัดนี้เขาชูตได้ไม่ดีเอาเลย ทำข้อผิดพลาดหลายอย่าง และมีตะแนน +/- อยู่ที่ติดลบ -13 แต้ม

บัตเลอร์ที่จริงเป็นตัวเลือกอันดับสอง แต่เขากับและเพื่อนตัวสำรองคนอื่นๆ เกือบทำทีมแพ้ เนื่องจากค่อนข้างเล่นได้อย่างผิดฟอร์มมาก

บัตเลอร์ชูต FG ด้วยสถิติ 3-10 แต่เขาก็ทำไปได้ 2 สตีล ฟอร์มทั่วไปก็เฉยๆ แต่เขาก็ยังมีข้อผิดพลาดหลายๆ อย่างจากจังหว่ะแหน่งๆ ตอนทำแต้ม

นัดนี้เขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ

_________________________________ ตัวสำรอง _________________________________


นิวยอร์คนิก เกรด B+

จากการที่ผู้เล่นตัวหลักโดนผู้ตัดสินเล่นงานซะเรียบ สุดท้ายก็ต้องใช้ผู้เล่นสำรองลงมาโชว์ฟอร์ม ซึ่งนี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงเกมรับและตอบโจทย์ว่าตัวสำรองพร้อมแค่ไหนจากเกมแบบนี้

และสุดท้าย เหล่าผู้เล่นสำรองช่วยกันทำแต้มไป 43 แต้ม

คริส โคปแลนด์และเปาโล ปริจิโอนี่ ทั้งสองคนเกือบทำเรื่องช็อกเมื่อเกือบพาทีมกลับมาชนะได้ แต่โชคร้าย เมื่อพวกเขาต้องตามหลังเยอะมากเกินไป เมื่อสิ่งที่เขาได้ร่วมกันทำก็ยังไม่เป็นผลในเกมนี้

ถ้าไม่มีคนโดนไล่ออก เราก็คงจะไม่เห็นสิ่งดีๆ ในเรื่องนี้ และนัดนี้สตีฟ โนแว็กก็ยังเล่นได้น่าผิดหวัง คงต้องให้เครดิตกับเกมรับของบูลส์เหมือนกัน

ชิคาโก้ บูลส์ เกรด D+


อยากรู้มั้ยว่าทำไมสำรองของบูลได้เพียงเกรด D+

ผู้เล่นสำรองทั้งหมดของบูลส์นั้นมีคะแนน +/- อยู่ในเกณฑ์ติดลบทั้งหมด นั่นแหละเหตุผลที่ทำให้ทีมสำรองของบูลส์ได้เพียงเกรด D

นัดนี้เกือบพ่ายแพ้เมื่อตัวจริงต้องออกไปนั่งข้างสนาม จริงๆ ก็ต้องโทษผู้เล่นตัวหลังที่ตกเป็นทาสของอารมณ์ในเกมนี้

และนัดนี้พวกเขาทำได้ 19 แต้มรวมกัน 4 แอสซิสและ 3 รีบาว โชคดีที่ก่อนหน้านั้นทีมตัวจริงทำผลงานไว้ดีมากๆ

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การเทรดแฮมิลตันออกและอนาคตของโรส


ฤดูกาลนี้เหมือนเป็นฤดูกาลต้องคำสาปของทั้งชิคาโก้ บูลส์และเดอริก โรส
โรสได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกในรอบเพลย์ออฟฤดูกาลที่ผ่านมาที่พบกับฟิลาเดเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์และจากการไม่มีผู้เล่นเอ็มวีพี ทำให้ชิคาโก้ บูลส์ต้องพ่ายแพ้ไปโดยใช้เวลาเพียง 5 เกมกระเด็นตกรอบเพลย์ออฟ

หลังจากนั้นโรสกฺปิดเทอมยาว ทุกคนก็นึกว่าฤดูกาลนี้ของบูลส์ต้องลำบากแน่ๆ หลังจากที่โรสยังบาดเจ็บอยู่ แต่ต้องขอบคุณความคงเส้นคงวาของลูอัล แดง (17.7 แต้มกับ 7 รีบาวต่อเกม) และการระเบิดฟอร์มของโจอาคิม โนอาร์ (13.6 แต้ม, 10.6 รีบาว, 4.5 แอสซิสและ 2.3 บล็อกต่อเกม) ทำให้บูลา์ทำได้มากกว่าการแค่เล่นประคองทีมในระหว่างที่รอโรสกลับมา


ด้วยสถิติ 14-10 ทำให้บูลส์เป็นผู้นำในกลุ่มเซ็นทรัล ดิวิชั่นและตามหลังผู้นำในกลุ่มอีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์อย่างนิวยอร์ค นิกอยู่ 4.5 เกม

และเมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมาบูลส์ก็ได้รับข่าวดีเมื่อโรสนั้นกลับมาซ้อมเบาๆ ได้แล้วหลังจากที่ได้สิ้นหวังเมื่อรู้ว่าอาการบาดเจ็บมันหนักขนาดไหน แต่บูลส์ก็ยังมีความหวัง เมื่อเขาตัดสินใจใช้วิธีพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมาเล่นมากกว่าการไปเอานักบาสคนอื่นมาเล่นแทน

และตอนนี้บูลส์ก็สามารถเก็บชัยชนะได้เรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสเหมือนกันที่บูลส์จะเทรดทั้งเนต โรบินสันและริป แฮมิลตันออกจากทีม การทีมทั้งสองคนออกจากทีมไป จะทำให้บูลส์สามารถหาผู้เล่นเด็กเจ๋งๆ เข้ามาสู่ทีมได้อีก

การที่ยอมเทรดโรบินสันออกไป จะทำให้รูกกี้อย่างมาควิส ทีก มีโอกาสในการลงเล่นมากขึ้นไปอีกและนักบาสปีสองอย่างจิมมี่ บัตเลอร์ก็เริ่มเล่นได้ดี และได้ลงเล่นมากขึ้น (5.3 แต้มกับเปอร์เซ็นต์การชูตฟิลโกล 52.3% และลงเล่น 17.3 นาทีต่อเกม) ทำให้ตอนนี้ทอม ทิเบอดูตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกับการเทรดแฮมิลตันออกไปจากทีม


แฟนบูลส์ไม่ต้องการที่จะรอเป็นเวลานานกับการไล่ตามทั้งทีมดมอามี่และนิก โดยไปแขวนทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับโรส ชิคาโก้ต้องทำอะไรบางอย่างในขณะที่กำลังรอโรสกลับมา ซึ่งต้องใจเย็นอย่างมากในตอนนี้

และบูลส์จำเป็นต้องใช้แดงและโนอาร์อย่างหนักมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ (40.9 และ 40.2 นาทีต่อเกม) ซึ่งทิเบอดูก็เรียกใช้บริการผู้เล่นสำรองเหมือนกัน แต่เมื่อดูแล้วเขาก็ยังใช้ทั้งสองคนมากที่สุดกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วในลีก

แต่ถ้าตอนนี้โรสวัย 24 ปีกลับมาเล่นได้ 100% ได้เงินเพิ่มมานิดหน่อยได้ผู้เล่นเยาวชนเจ๋งๆ ซักคนสองคน บูลส์ทีมนี้ต้องเป็นอีกทีมที่น่ากลัวอย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เหตุผลที่บูลยังไม่ควรจะให้โรสกลับมา

ที่มา : http://bleacherreport.com
เขียนโดย : Andres Montero
แปลโดย : Tiger Sky



จากรายงานของสำนักข่าวชิคาโก้ ซันไทม์ ตอนนี้เดอริก โรส อดีตผู้เล่น MVP ของลีกได้เริ่มกลับมาวิ่งและชูตได้บ้างแล้ว การกลับมาของโรสก็เป็นประเด็นร้อนของแฟนเอ็นบีเอทั่วโลก

แต่บูลควรจะต้องรีบใช้งานโรสตอนนี้เลยเหรอ

แน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโรสจะทำให้ทีมดีขึ้นแน่นอน และสามารถเป็นคู่แข่งในการแย่งแชมได้เลย

อย่างไรก็ตาม การที่จะเอาโรสกลับมาเล่นเลยในตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีนัก แต่นอนว่าตอนนี้ชิคาโก้ยังไม่มีผู้นำ แต่ในอนาคต การที่ไม่มีเขาจะส่งผลเสียมากกว่า เหมือนที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา

และผมก็มี 3 เหตุผลว่าทำไมบูลถึงยังไม่ควรจะรีบใช้บูลส์ตอนนี้

1. เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอีกครั้ง

ภาพอาการบาดเจ็บของของโรสยังยังติดตาแฟนบูลส์หลายๆ คนอยู่เลย ในฤดูกาล 2011-12 เป็นอะไรที่ทุกคนยังสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีเหตการณ์นี้แล้วบูลจะไปได้ไกลแค่ไหน

สิ่งสำคัญที่สุดกับการกลับมาของโรสนั้น จะต้องมั่นใจว่าโรสจะไม่ไปบาดเจ็บที่หัวเข่าอีก หลายคนบาดเจ็บบริเวณนี้และก็สามารถกลับมาได้ แต่บูลส์ต้องระวังอย่างมากต่อการกลับมาของโรสครั้งนี้

บูลส์ต้องระวังอย่างมากที่สุดเพื่อไม่ให้โรสเป็นเหมือนกับเทรซี่ เม็กเกรดี้, ไมเคิล เร็ด หรืออย่างแย่ที่สุดก็ในรายของ เกร็ก โอเด็น ทั้งสามรายที่กล่าวมาไม่สามารถกลับไปเป็นผู้เล่นคนเดิมได้หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

ด้านของโอเด็น ไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้อีก

บูลส์ต้องระวังมากๆ กับการให้โรสกลับมาลงเล่น และต้องมั่นใจว่าเขาพร้อม 100% แล้วเท่านั้น และตอนนั้นโรสก็จะเป็นสุดยอดผู้เล่นพ้อยการ์ดอีกครั้งในทีม

ควรให้โรสกลับมาช่วงปิดฤดูกาล

ถ้าโรสสามารถกลับมาได้ในฤดูกาลนี้ การปรับตัวกับความเร็วของเกมมันต้องใช้เวลาซักพักหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกายของเขาเอง มันอาจจะใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ต้องใช้จำนวนเกมมากซักหน่อยเพื่อให้เขากลับไปอยู่ในฟอร์มเดิม

การปรับตัวของโรสเพื่อที่จะกลับไปเป็นผู้นำในการแต้มอีกครั้งและเล่นเข้าขากับเพื่อนได้นั้น ทุกคนในทีมจะต้องช่วยกันเพื่อให้เขากลับมาได้

การเล่นและการเซตเพลย์ก็ต้องปรับใหม่ เมื่อบูลจะมีทางเลือกในการทำคะแนนเพิ่มมากขึ้นซึ่งรูปแบบการบุกใหม่นี้ ทีมบูลอาจจะต้องใช้เวลาตลอดฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดที่ให้โรสกลับมาในช่วงปิดฤดูกาลคือ โรสจะมีโอกาสในการฝึกซ้อมแบบจริงๆ จังๆ มีโอกาสได้ซ้อมลงทีมและยังได้เล่นในเกมพรีซีซั่น







ตอนนี้ทีมก็กำลังไปได้สวยอยู่

การได้โรสกลับมาก็เป็นเรื่องดี และก็มีความเป็นไปได้ที่บูลส์จะนำเขากลับมาโดยเร็ว ทั้งการทำแต้มและความเป็นผู้นำของเขา

อย่างไรก็ตาม บูลส์ในฤดูกาลนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร

ชิคาโก้นั้นอยู่ในอันดับสี่ของสายฝั่งตะวันออกและก็เป็นผู้นำในกลุ่มเซ็นทรัล ดิวิชั่นด้วยสถิติ 12-9

โจอาคิม โนอาร์นั้นเล่นอยู่ในฟอร์มที่สามารถเข้าไปเป็นผู้เล่นออลสตาร์ได้เลย ด้วยการทำเฉลี่ย 14 แต้มและ 10 รีบาว ส่วนลูอัล แดง ก็ทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้วด้วยการทำ 18 แต้มกับ 7 รีบาว

ซึ่งตอนนี้บูลส์มีโอกาสที่จะจบฤดูกาลด้วยสถิติ 47-35 ซึ่งดูเหมือนว่าการขาดสตาร์ดังจะไม่ส่งผลอะไรกับเขาเลย

ถามว่าโรสจะทำให้บูลส์มีโอกาสเป็นทีมชั้นนำอีกครั้งได้หรือไม่?
ตอบเลยว่ามีโอกาส แต่บูลก็ไม่ควรจะเรียกใช้บริการเขาเร็วเกินไป เพราะเขาได้บาดเจ็บไปนานมาก

ตอนนี้บูลส์มีศักยภาพพอที่จะเข้าเพลย์ออฟด้วยเกมรับอันแข็งแกร่ง และก็มีตัวทำคะแนนที่ไม่ขี้เหล่อย่างแดงและโนอาร์

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

LA Clippers vs Chicago Bulls REVIEW



ที่มา : มีหลายที่แต่หลักๆก็ http://bleacherreport.com และสถิติจาก http://www.nba.com/
แปล/เรียบเรียง : Tiger Sky

สถิติพบกันในฤดูกาลนี้ : คลิปเปอร์นำอยู่ 1-0 เกม

การพบกันล่าสุด : 
เบลค กริฟฟินทำไป 26 แต้มกับ 10 รีบาวช่วยให้คลิปเปอร์ถล่มบูลไป 101-80 ที่ลอสแองเจอลิสเมื่อวันที่ 17 พฤษจิกายน

ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม :
          แอลเอ คลิปเปอร์ : คริส พอล, วิลลี่ กรีน, เดออังเดร จอร์แดน, เบลค กริฟฟินและแครอน บัตเลอร์
          ชิคาโก้ บูลส์ : เนต โรบินสัน, มาร์โก้ เบลลิเนลลี่, โจอาคิม โนอาร์, คาร์ลอส บูเซอร์และลูอัง แดง

สถิติเฉลี่ยของทั้งสองทีม
          คะแนนเกมบุก : คลิปเปอร์ 102.3 (6), บูลส์ 94.1 (24)
          คะแนนเกมรับ : คลิปเปอร์ 94.5 (8), บูลส์ 91.2 (6)
          การชูต : คลิปเปอร์ 0.480 (4), บูลส์ 0.444 (16)
          ลูกโทษ : คลิปเปอร์ 0.741 (22), บูลส์ 0.803 (2)
          ชูตสามแต้ม : คลิปเปอร์ 0.348 (15), บูลส์ 0.333 (25)
          รีบาวเฉลี่ย : คลิปเปอร์ 40.6 (22), บูลส์ 44.2 (7)
          เทิร์นโอเวอร์ : คลิปเปอร์ 14.8 (12), บูลส์ 15.7 (23)

อื่นๆ :
          คลิปเปอร์นั้นชนะไป 9 จาก 11 เกมหลังสุดที่ยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ และนี่เป็นการเริ่มต้นทริปสี่เกมของพวกเขา
          คลิปเปอร์ชนะติดต่อกันมาแล้ว 6 เกม
          เบลค กริฟฟิตเป็นผู้เล่นประจำสัปดาห์ของสายตะวันตกหลังจากที่เฉลี่ยทำไป 23 แต้มกับ 10.3 รีบาวในสี่เกมของสัปดาห์ที่ผ่านมา

          เบลิเนลลี่ทำแต้มเฉลี่ย 20.3 ตลอดสามเกมที่ผ่านมาที่ไม่มีริป แฮมิลตัน
          เคิร์ก ไฮริชต้องเข้าโรงหมอเพิ่มอีกหนึ่งคนหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกในเกมที่ผ่านมา

เป็นสองทีมที่เรียกได้ว่าร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ ทั้งคลิปเปอร์ที่ทำสถิติชนะรวดมา 6 เกมติดต่อกันที่ต้องมาเจอกับบูลที่ชนะรวดมา 3 เกมติดต่อกัน

ทีมชิคาโก้บูลส์ ยังไม่ได้เดอริก โรส พ้อยการ์ดตัวเก่งมาจากอาการบาดเจ็บ และโค้ช ทอม ทิเบอร์ดูยังต้องพึ่งพิงสองตัวเก๋าอย่างโจอาคิม โนอาร์และลูอัง แดง อยู่ ซึ่งทั้งสองลงเล่นในแต่ละเกมไม่ต่กกว่า 39.8 นาทีต่อเกมเลยทีเดียว ต้องขอบคุณการเล่นที่ไม่แน่นอนของตัวสำรองจริงๆ

ส่วนทางด้านของคลิปเปอร์ สามตัวหลักอย่างเบลค กริฟฟิน, คริส พอลและจาเมล ครอฟอร์ดนั้นช่วยกันแชร์แต้มกันอย่างดี โดยมีแต้มเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 16.1 แต้ม โดยมีแต้มบวกลบอยู่ที่ 7.8 คะแนนในแต่ละเกม ถือว่าเป็นสามประสานที่ดีที่สุดในเอ็นบีเอเลยในขณะนี้

เกมนี้จะต้องเป็นการดวลระหว่างทีมที่มีการชูตดีเป็นอันดับสามในลีก (48.0%) ต้องมาพบกับทีมที่ป้องกันการชูตได้ดีเป็นอันดับสองในลีก (42.4%) ซึ่งในเกมแรก บูลก็โดนคลิปหนีบจนแสบด้วยสกอร์ 101-80

รายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บ

คลิปเปอร์
ชอนซี่ บิลลัป
แกรนต์ ฮิล
เทรย์ ธอมกินส์

บูลส์
เคิร์ก ฮินริช (ต้องรอเช็คอาการ)
ริชาร์ด แฮมิลตัน
เดอริก โรส

การต่อสู้ของตัวหลัก
เบลค กริฟฟิน, PF, คลิปเปอร์ vs คาร์ลอส บูเซอร์, PF, บูลส์

ทีมบูลต้องการฟอร์มที่ดีระเบิดระเบ้อของบูเซอร์ถ้าต้องการจะให้ต่อสู้กับกริฟฟินได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

สามฤดูกาลแล้วที่กริฟฟินมีสถิติการทำคะแนนเฉลี่ยลดลงจาก 22.5 สมัยที่เป็นรุกกี้จนเหลือ 18.0 แต่ไม่มีใครในใจในเรื่องนี้ ต้องขอบคุณคลิปเปอร์ที่สนับสนุนตัวเขาเสมอมา และช่วยพัฒนาความสามารถเขามาจนถึงขณะนี้ และตอนนี้เขาก็ได้ลงเล่นน้อยลงจาก 38.0 นาทีเหลือ 32.5 นาที

กริฟฟินเริ่มพัฒนาตัวอย่างช้าๆ จนตอนนี้กลายมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น เขาได้ลงเล่นมากขึ้นเป็น 36 นาทีและการแอสซิสก็เพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ครั้ง และรีบาวเฉลี่ย 10 ครั้งต่อเกม และยังรักษาฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อทำแต้มเฉลี่ย 20.7 กับ 9.3 รีบาวตลอดการชนะหกเกมรวดของคลิปเปอร์

และนี่ก็เป็นไฮไลท์ของเกมที่พบกันครั้งล่าสุด จะเห็นว่าไม่มีใครหยุดเขาได้เลยในเกมนี้

ส่วนทางด้านของบูเซอร์ ด้านความสามารถของเขาก็ยังเป็นที่สงสัยอยู่กับค่าตัว 32.1 ล้านเหรียญที่บูลส์เสียไปให้กับอดีตผู้เล่นจากดุก เขาเป็นการเซ็นสัญญาที่ไม่ค่อยดีนักของบูลส์ แต่เขาก็เล่นได้ดีพอใช้ได้ ไม่ได้ถึงกับต้องไล่ออกจากทีม

สกอร์เฉลี่ยของเขาลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับการรีบาวที่เพิ่มขึ้นเมื่อมาสวมเสื้อบูลส์ (9.7 ครั้งต่อเกม) ซึ่งเรายังไม่ขอพูดถึงแทจ กิปสันที่จะลงมาแทนเขาอยู่เรื่อยๆ ตลอดเกม ที่ถือว่าเป็นตัวสำรองที่ทดแทนได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว

ด้านกายภาพเขานั้นน่าจะสู้กับกริฟฟินได้อย่างสูสีทีเดียว แต่ตัดเรื่องประสบการณ์ของเขาทิ้งไปเลย เพราะแม้บูเซอร์ไม่ได้เป็นผู้เล่นที่ดีอย่างที่เขาเคยเป็นมาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาจะเล่นอย่างไรให้มีประโยชน์ที่สุดต่อทีม


ปัจจัยเสริม

คริส พอล, PG, คลิปเปอร์

เหมือนกับกริฟฟิน พอลมีแต้มเฉลี่ยลดลงจากเดิมมาอยู่ที่ 16.1 แต่เรื่องจริงของทีมคลิปเปอร์ในเวลานี้คือ พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดตั้งแต่พอลได้เคยอยู่มา

จากการที่โรสยังต้องอยู่ข้างสนามและมีความเป็นไปได้ที่ฮินริชอาจจะไม่ได้ลงเล่นเกมนี้ ตัวที่จะลงมาเล่นนั้นก็จะต้องกลายเป็นเนต โรบินสัน, โรบินสันเป็นผู้เล่นที่มีความอดทน, อึด แต่ด้วยความสามารถทางบาสเก็ตบอลแล้วเขายังไม่สามารถสู้กับพอลได้ในเวลานี้

การชูตของเขาก็อยู่ในขั้นที่เรียกว่าแม่น และพอลก็ถือว่าเป็นพ้อยการ์ดอันดับต้นๆ ของเอ็นบีเอในเวลานี้ ทั้งการถือบอล, ส่งบอลเร็บและไม่มีใครสามารถหยุดลูกยิงระยะกลางของเขาได้

และพรุ่งนี้ถ้าเกมบุกของเขาไม่เป็นดั่งใจ พอลจะเป็นผู้เล่นเกมรับที่น่ารำคาญเลยทีเดียว เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีสตีลสูงที่สุด, ทั้งขัดขวางการส่งบอล, การเคลื่อนที่เข้าหาลูกบอล เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยเกมรับ

ลูอัล แดง, SF, บูลส์

ครั้งแรกที่บูลส์นำแดงเข้ามา เขาไม่ได้พัฒนาตนเองเพื่อที่จะเป็นซุเปอร์สตาร์เลย แต่เขาเป็นมันตั้งแต่แรกที่เข้ามา

ในปีนี้ เขาเป็นมีการทำแต้มเฉลี่ยสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มเล่นในปี 2006-07 (18.3) ลงเล่นเป็นเวลามากที่สุด (41.2 มากที่สุดในเอ็นบีเอ) แอสซิสไป 2.9 ครั้งและรีบาวไป 7.1 ครั้ง

ต้องบอกว่า แดงน่าจะเป็นคู่หูที่ดีที่สุดเลยเมื่อโรสกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ เขาก็เป็นซุเปอร์สตาร์สำหรับทีมบูลส์ไปแล้ว

จามาล ครอวฟอร์ด, SG, คลิปเปอร์

เมื่อทั้งชอนซี่ บิลลัปและแหร้น ฮิล ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เมื่อไหร่ ครอวฟอร์ดก็ขึ้นมาช่วยเล่นเกมบุกให้กับคลิปเปอร์ได้เป็นอย่างดี

ถึงแม้เดิมทีเขาไม่ใช่ผู้เล่นสตาร์ตเตอร์ของทีมในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็สามารถทำคะแนนได้มากที่สุดในทีมเป็นอันดับสองที่ 17.9 คะแนน

แถมยังเป็นผู้เล่นที่ชูตสามแต้มได้แม่นทีเดียว (38.7%) แต่ครอวฟอร์ดนั้นเป็นผู้ที่เล่นผิดพลาดมากมายหลายครั้ง เนื่องจากเขาไม่ค่อยฟังเสียงเพื่อนร่วมทีมเมื่อเล่นเกมรับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อผลลับมันดีอย่างนี้ โค้ชอย่างวินนี่ เดลเนโกร ก็คงจะมองข้ามเรื่องเกมรับของเขาไปได้บ้าง

มาร์โก้ เบลิเนลลี่, SG, บูลส์

ต้องขอบคุณอาการบาดเจ็บของทั้งฮินริชและริป แฮมิลตัน ที่ทำให้เบลิเนลลี่ผันตัวเองจากผู้เล่นตัวสำรองของทิเบอดูมาเป็นผู้เล่นตัวจริงได้สำเร็จ

และผู้เล่นประสบการณ์ห้าปีรายนี้ก็จัดการคว้าโอกาสนั้นไว้ได้

กับแต้มเฉลี่ย 20.3 ต่อเกมในสามเกมล่าสุด เบลิเนลลี่กลายเป็นผู้เล่นที่ขาดไม่ได้ในเกมรุกของบูลในเวลานี้ แถมยังมีเปอร์เซ็นการชูตสามแต้มอยู่ที่ 39.6% มันช่วยเกมบุกของบูลส์ได้มากทีเดียว

เรียกได้ว่าเมื่อใดที่บูลต้องการ เบลิเนลลี่ก็จะสนองได้ และตอนนี้ ด้วยสถิติขนาดนี้ เขาคงจะเป็นผู้เล่นตัวสำรองที่ทิเบอดูโปรดปราน และให้ลงเล่นในเวลาที่มากขึ้นอย่างแน่นอน

จบด้วยชาร์ตตัวผู้เล่นทั้งสองทีม

คลิปเปอร์


บูลส์

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

5 ตัวเลือกในการเทรดเพื่อช่วยโรสตอนเมื่อเขากลับมา


ที่มา : http://bleacherreport.com/
แปลโดย : Tiger Sky

ยังไม่กำหนดแน่นอนว่าโรสจะกลับมาได้เมื่อไหร่ แต่คาดว่าอีกไม่นานแล้วล่ะ และหวังว่าทีมบูลจะได้บินสูงซะที

จากการที่โรสบาดเจ็บไปในช่วงเพลย์ออฟฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้บูลก็กลายเป็นที่เกือบเป็นทีมที่ดี แต่มันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง

และในตอนนี้ บูลนั้นต้องเริ่มมองหาการเทรดตัวที่ดีเพื่อมาเพิ่มความสามารถของทีมเมื่อโรสกลับมา ซึ่งตลาดการเทรดตัวก็ใกล้ที่จะเปิดแล้ว

และเราก็ขอเสนอห้าผู้เล่นที่น่าจะมาช่วยเพิ่มศักยภาพของทีมบูลหลังจากที่โรสกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว

เทชอน ปริ้นซ์ (Tayshaun Prince, SF)


เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวสำคัญของดีทร้อย พิสตัน ที่เกือบจะเลิกเล่นไปแล้วเมื่อไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในทีมชุดแชมป์ปี 2004 คนนั้นก็คือเทชอน ปริ้นซ์

ถึงแม้ว่าในตำแหน่งของเขา เขาก็ไม่ได้เป็นผู้เล่นออลสตาร์ แต่ปริ้นซ์ก็เป็นผู้เล่นที่สนับสนุนทีมได้อย่างดี และเขาก็มักจะมีชื่อยอู่ในผู้ทำคะแนนอยู่เสมอๆ

ตอนนี้ปริ้นซ์อายุ 32 ปี ที่มีเกมป้องกันอยู่ในระดับค่าเฉลี่ย แถมยังเป็นคนที่ชูตแม่นในระดับดีทีเดียว (45% สำหรับฤดูกาลนี้) ซึ่งเขาสามารถเป็นผู้เล่นสำรองชั้นเยี่ยมให้กับลูอัล แดง ซึ่งบูลต้องการมากถ้าเขายังหวังสูงอยู่ในฤดูกาลนี้

ราคาของปริ้นซ์ก็ถือว่าไม่สูงเลยสำหรับทีมชิคาโก้ บูลส์ โดยเฉพาะเรื่องค่าจ้างของเขา และมีความเป็นไปได้เหมือนกันที่เขาจะมา และอาจจะต้องมีโบนัสเล็กน้อยเมื่อสามารถเข้าไปเล่นรอบเพลย์ออฟได้










ไมเคิล บีสลีย์ (Michael Beasley, SF/PF)


มีหลายๆ ทีมต้องการตัวบีสลีย์ แต่อนิจจา ไม่มีซักทีมเลยที่มีผลงานเข้าตาจนทำให้บีสลีย์อยากที่จะไปอยู่ด้วย

สิ่งที่ทำให้ฟีนิก ซันเลือกผู้เล่นคนนี้เข้าสู่ทีมน่าจะมาจากการที่เขาเป็นอดีตผู้เล่นยอดเยี่ยมจากแคนซัส สเตต นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟินิกเซ็นสัญญา 3 ปีกับเขาที่ค่าตัว 18 ล้านเหรียญ

แต่ตลอดปีนี้ บีสลีย์เล่นได้ไม่มีความคงเส้นคงวา, ไร้ประสิทธิภาพ และนี่จึงทำให้ซันอยากที่จะนำผู้เล่นนี้ออกไป

ทำไมทีมบูลถึงต้องการผู้เล่นที่มีราคาแพงและถืวว่ายังหน้าใหม่ในเอ็นบีเอเข้ามาสู่ทีมน่ะเหรอ เพราะว่าในระยะสั้น บีสลีย์มีจะสามารถเล่นได้ดีเมื่อเขามีสมาธิและได้รับแรงบันดาลใจที่จะเล่น

และตอนนี้ เขาคงเข้ามาได้เป็นเพียงตัวสำรองที่บูลส์ ซึ่งนี่จะช่วยให้เขาได้รับแรงจูงใจทีละน้อย แต่ระดับสุดยอดโค้ชอย่างทอม ทิเบอดูแล้ว เขาน่าจะช่วยแนะแนวทางเพื่อเพิ่มศักยภาพในตัวบีสลีย์ได้อีกมิใช่น้อยเลยทีเดียว

ถือว่าเป็นดีลระยะยาว แต่ถ้าบูลส์นั้นเข้ากับบีสลีย์แล้วล่ะก็ พวกเขาน่าจะได้สุดยอดผู้เล่นอีกคนนึงเข้ามาสู่ทีมเลยทีเดียว




เดอริก วิลเลี่ยม (Derrick William, PF/SF)


มาเป็นตัวคอมโบ้คู่กับไมเคิล บีสลีย์ได้เลยสำหรับเดอริก วิลเลี่ยม

วิลเลี่ยมถือว่าเป็นตัวความหวังเลยทีเดียวเมื่อตอนที่เขาถูกดร้าฟมา ต้องบอกว่าเมื่อปี 2011 เขาถูกดร้าฟมาในอันดับที่สูงกว่าไครี่ เอฟวิง ซะอีก และตอนนี้เขาก็เป็นตัวสำรองที่เป็นตัวแทนของเควิน เลิฟ และตอนนี้มีรายงานมาจากเว็บ 1500espn.com ว่าเอเยนต์ของวิลเลี่ยมบอกว่าเขาพร้อมแล้วที่จะโดนเทรด

ตั้งแต่เขาโดนเทรตเข้ามาในฐานะรูกกี้ บูลส์ก็ให้ความสนใจเขามาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่เขาเลือกที่จะเก็บผู้เล่นตัวหลักไว้มากกว่า จึงทำให้ผู้เล่นจากหมวิทยาลัยอริโซน่าต้องไปอยู่กับมิเนโซต้า ทิมเบอร์วูฟ

วิลเลี่ยมนั้นจะเข้ามาช่วยทำให้เกมวงนอกของบูลแกร่งขึ้น และน่าจะมาเล่นเป็นคู่หูได้อย่างดีกับบีสลีย์ อย่างไรก็ตาม เขายังมีปัญหาเรื่องอารมณ์ และมีความเสี่ยงที่บางเกมเขาอาจจะอยู่ไม่จบเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เค้าจะต้องเปลี่ยนคู่แข่งของเขาไป เดอริก โรสก็คงจะไม่มีปัญหากับการที่จะมีผู้เล่นอเนกประสงค์อยู่ในทีม และวิลเลี่ยมก็จะเป็นตัวสำรองที่จะลงมาทำแต้มให้กับบูลได้เป็นกอบเป็นกำ






เดอแมร์ แคโรล (DeMarre Carroll, SF)


คงมีไม่กี่คนที่จะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเดอแมร์ แคโรล แต่เขาเป็นผู้เล่นที่สร้างความลำบากใจให้กับผู้เล่นฝั่งตรงกันข้ามได้อย่างดี

แคโรลเป็นได้ทุกๆ คำนิยามและเป็นผู้เล่นที่มีนิสัยชอบเล่นเกมรับ ซึ่งเข้ากับสไตล์ของบูลอย่างมาก เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ทำแต้มได้เยอะ แต่เขาก็เป็นผู้เล่นที่มีความพยายามมากเมื่อได้ลงเล่น

สิ่งที่ดีที่สุดของแคโรลคือเค้าราคาไม่แพง สัญญาใกล้จะหมด ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่พอใช้ได้ถ้าเกิดว่ายูท่า แจสต้องการเงินนิดหน่อยจากการที่ต้องปล่อยเค้าไป ชิคาโก้มีโอกาสคว้าตัวเขาได้ก่อนเดธไลน์ นอกจากนั้นเขายังสามารถเล่นในตำแหน่งชูตติ่งการ์ดและสมอลล์ฟอร์เวิร์ดได้อีกด้วย











เจเจ รีดิก (J.J. Redick, SG/PG)


หลังจากที่ถูกดร้าฟมาสู่ทีมออลันโด้ เมจิก รีดิกก็ไม่เคยไปอยู่ทีมไหนเลย เขาเป็นผู้เล่นตัวหลักที่มีชื่ออยู่ในสกอร์บอร์ดเสมอตั้งแต่อยู่ที่ดุ๊ก

สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหายไปจากตัวรีดิกเลยก็คือ เขาเป็นผู้เล่นที่ชูตแม่นคนหนึ่งในเอ็นบีเอ และสามารถที่จะเป็นผู้เล่นตัวหลักของบูลได้ถ้าเขาต้องการ

ชิคาโก้นั้นมีปัญหาที่ไม่มีผู้เล่นรอข้างสนามเมื่อริป แฮมิลตันบาดเจ็บ และรีดิกก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาพร้อมที่จะโดนเทรดแล้ว ออลันโด้ เมจิกตอนนี้ต้องการที่จะสร้างทีมใหม่ และดีลของรีดิกก็อยู่ที่ประมาฯ 6 ล้านเหรียญเท่านั้นก่อนที่เขาจะต้องกลายเป็นผู้เล่นฟรีเอเย่น

นี่จึงเป็นสาเหตุที่บูลควรจะไปหนีบผู้เล่นคนนี้มาไว้ในครอบครอง เขาสามารถทำสกอร์ได้ดีอีกทั้งยังสามารถเล่นเป็นการ์ดตัวที่สองได้อีกด้วย ตอนนี้รีดิกเป็นคนถือบอลให้กับเมจิก นั่นหมายความว่าบูลสามารถให้เขามาช่วยถือบอลร่วมกับโรสในขณะที่ลงเล่นอยู่ได้

รีดิกสามารถช่วยเพิ่มแต้มให้กับบูลได้ดี มาเสริมความลึกของตัวผู้เล่นและยังช่วยเซฟเพดานเงินเดือนได้   มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะนำเขาออกมาจากออลันโด้ เมจิก และเขายังสร้างประโยชน์ได้มาก และอาจจะยังมาเล่นแทนโรสได้ในบางครั้ง

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หลังเกมชิคาโก้ บูลส์ เฉือนนิวยอร์ค นิกไปสุดมัน



แปลโดย : Tiger Sky
ที่มา : www.nba.com

ความจริงวันนี้
มาร์โก้ เบลิเนลีและลูอัล แดง ทั้งสองคนทำคะแนนไปคนละ 22 คะแนน และทีมบูลส์ก็มีอีกสามคนที่ทำคะแนนได้เป็นเลขสองหลัก ทำให้บูลเฉือนชนะนิกไปได้ด้วยคะแนน 93-85 และนี่ก็เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่บูลทำสถิติชนะสามเกมติด

เรย์มอน เฟลตันทำได้ 27 คะแนนให้กับนิก และนี่เป็นเกมที่สองแล้วที่นิกเล่นโดยไม่มีคาร์เมล่อน แอนโทนี่หลังจากที่ได้รับการบาดเจ็บที่นิ้วมือ และนิกก็หยุดสถิติชนะ 5 เกมติดต่อกันที่เกมนี้

เป็นการเล่น 4 เกมใน 5 วันของบูล แถมเป็น 4 เกมที่ต้องปราศจากชูตติ้งการ์ดอย่างริป แฮมิลตันอีกด้วย และยังต้องมาเสียพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดตัวสำรองอย่างแทก กิปสันไปตั้งแต่ครึ่งแรก ยังซวยไม่พอ เคิร์ก ไฮริชก็มาบาดเจ็บที่ข้อศอกอีก แต่สุดท้ายก็สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างน่าประทับใจมาก

Quote of Game I
"ทุกคนยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก และเป็นคนสำคัญสำหรับเรา" โจอาคิม โนอาร์ เซ็นเตอร์ของทีมบูลส์พูดถึงเบลิเนลี่ในเกมที่ผ่านมา

สถิติ
นิกมีสถิติเป็นอันดับ 10 ในเอ็นบีเอที่ยิงฟิลโกล์ได้แม่นที่สุด แต่เกมนี้พวกเขาทำสถิติได้เพียง 32% เท่านั้น(84 ลง 27) และเฟลตันชูตไป 30 ครั้งลงแค่ 9 โดยที่เขาทำแต้มไปสูงสุด 27 คะแนน

บูลส์ได้คะแนนจากจุดโทษน้อยกว่าที่ 23-18 แต่เป็นการชูตลงร้อยเปอร์เซ็นต์คือ ชูต 18 ลง 18

หลังจากที่ทำไป 30 แต้มกับ 23 รีบาวในเกมเมื่อวันศุกร์(เช้าวันเสาร์) ที่พบกับดีทร้อย โนอาร์ทำได้เพียง 10 คะแนนกับ 11 รับาวในเกมนี้ และเขาเสียไป 9 เทิร์นโอเวอร์

จุดเปลี่ยน
บูลทำได้ 6 แต้มรวดใน 1.38 นาทีในควอเตอร์ที่ 4 ทำให้บูลทิ้งห่างจากสามแต้มเป็นเก้าแต้มและเหลืออีกเพียง 55 วินาที

อัพเดทอาการบาดเจ็บ
แอนโทนี่กลับมาชูตเล่นก่อนเกมได้แล้ว และเขาบอกว่าเขาพร้อมที่จะลงเล่นในเกมคืนวันอาทิตย์(เช้าวันจันทร์) ที่จะต้องเจอกับเด็นเวอร์ ซึ่งเขายังต้องระวังเรื่องการจับบอลอยู่พอสมควร

ฮินริชบาดเจ็บที่ข้อศอกในควอเตอร์ที่สอง และไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้

ร้อนแรง
จากอาการบาดเจ็บของริป แฮมิลตันถูกทดแทนได้อย่างดีด้วยเบลิเนลลีซึ่งทำแต้มเฉลี่ย 20 แต้มในสามเกมที่ผ่านมา ซึ่งเขาชูตไป 43 ครั้งลงไป 21 ครั้งคิดเป็น 48.8% ซึ่งในนั้นก็มีการยิงสามแต้ม 20 ครั้งลงไป 8 ครั้ง คิดเป็น 40%

ร้อนรน
การชูตของนิกเรียกว่าไม่ดีเอาซะเลย อย่างรอนนี่ บรูเวอร์ก็ชูตไป 5 ครั้งพลาดหมด, เจสัน คิดชูต 7 ลง 2 , เจ.อาร์.สมิธ ชูต 14 ลง 4

Quote of Game II
"ผมว่าพวกเขาออกจะดูรนไปหน่อยนะ" ไมค์ วูดซัน โค้ชของนวยอร์คนิก

Quote of Game III
"He did not get his money' worth" (ไม่แน่ใจว่าแปลว่าอะไร น่าจะแปลว่าการฟาวครั้งนี้เขาจ่ายแพงไป ไม่คุ้มค่าเลย)
คาร์ลอส บูลเซอร์ ฟอร์เวิรดของบูลส์ได้ออกมาพูดถึงกิปสันที่ทำเทคนิเคิ้ลฟาวถึงสองครั้งอย่างรวดเร็วในควอเตอร์ที่สอง ส่วนกิปสันก็ไม่ได้พูดอะไรถึงการฟาวครั้งนี้

Good Move
กิปสันต้องออกจากการแข่งขันหลังจากเล่นไปเพียง 3.40 นาทีในควอเตอร์ที่สองหลังจากที่ไปคอมเม้นการตัดสินของกรรมการหลังจากที่ เดอริก สแตฟฟอร์ดเป่าให้เขาเสียฟาวจากการรีบาว

ฮินริชต้องออกจากการแข่งขันไปหลังจากได้รับบาดเจ็บหลังจากที่เล่นไป 2.49 นาทีในควอเตอร์ที่สอง ทำให้บูลเล่นเกมในครึ่งหลังโดยใช้ผู้เล่นเพียง 6 คนเล่นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีเพียงสองคนที่ลงมาเปลี่ยนคือ เนส โมฮัมเม็ดที่เล่นไปเพียง 1 นาทีและมาควิส ทีกเล่นไปเพียง 3 นาที

รู้ไปทำไม
หลังจากที่เล่นกับนิกวันนี้ ทำให้ทีมบูลต้องเจอกับทีมที่มีสถิติมากกว่า 0.500 ไปทั้งหมด 10 เกมเข้าให้แล้ว

จากเกมนี้ ลูอัล แดงลงเล่นไปเกือบตลอดเวลาการแข่งขันโดยได้พักไปเพียง 86 วินาที, โนอาร์เล่นไป 44 นาทีและเบลิเนลี่เล่นไป 45 นาที

อีก 8 เกมต่อไปนี้ นิกจะเล่นในบ้านถึง 7 เกม มาลุ้นกันว่าเขาจะทำสถิติ 7-0 ได้หรือไม่

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หลังเกม ชิคาโก้บูล พบกับ คลิฟแลนด์ คาวาเลีย วันที่ 5 ธันวาคม 2555 (เมืองไทยเช้าวันที่ 6)


ความจริงวันนี้
บูลเปิดเกมได้สวยงามมากเมื่อมาร์โก้ เบลิเนลลี่ทำไปได้ถึง 10 แต้มในควอเตอร์แรกในเกมที่เขาทำแต้มได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ถึง 23 แต้ม ตามมาด้วยลูอัลแดง 22 แต้ม โจอาคิม โนอาร์ 13 แต้ม 15 รีบาวกับอีก 5 แอสซิส

ส่วนทางด้านของคลิฟแลนด์ คาวาเลียผู้ที่ทำแต้มสูงสุดคือ โดนัล สโลนทำไป 14 แต้ม แอนเดอร์สัน วาเจโร่ 11 แต้มกับอีก 15 รีบาว

Quote of Game I
"เป็นค่ำคืนที่สุดยอดมากของผมที่ออกสตาร์ตได้เร็ว และเพื่อนร่วมทีมก็พยายามช่วยผมได้ดีมาก ผมเริ่มต้นได้อย่างดุดันและก็พยายามที่จะทำมันให้ออกมาดีที่สุด"

สถิติ
วาเรเจา ผู้ที่มีสถิติการรีบาวมากที่สุดในเอ็นบีเอ ซึ่งนัดนี้ก็สามารถทำ double-double ได้เป็นครั้งที่ 10 ในฤดูกาลก็พลาดการชูตฟิลโกลถึง 12 จาก 16 ครั้ง และก็เป็นอีกนัดที่วาเรเจาสามารถทำรีบาวขั้นต่ำได้ 15 ครั้งและ 5 ออฟเฟนซิฟบอร์ดเป็นนัดที่ 10 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งเหลืออีกเพียง 2 นัดก็จะสามารถไปทำสถิติได้เทียบเท่ากับโมเสส มาโลนเซ็นเตอร์ของฮูสตันในฤดูกาล 1978-1979

"ถามว่าผมอยากเจอเขามั้ยน่ะเหรอ ตอบเลยว่าไม่" โนอาร์ให้สัมภาษณ์ "แต่ผมต้องให้เครดิตกับเขาเนื่องจาก เขานั้นเป็นสุดยอดผู้เล่นที่ไม่ได้เข้าไปเล่นเพลย์ออฟ และผมก็เคารพเขาทั้งในและนอกสนาม"

จุดเปลี่ยน
หลังจากที่คาวาเลียตามมาอยู่ที่ 64-59 จากการชูตลูกโทษของไทเลอร์ เซลเลอร์ตอนที่เหลือ 1.51 นาทีในควอเตอร์ที่สาม แต่ก่อนจบควอเตอร์บูลก็รันแต้มไป 8-4 แต้มทำให้จบควอเตอร์ 3 บูลก็กลับไปนำ 9 แต้มเหมือนเดิม ซึ่งก็ได้เคิร์ก ไฮริชทำได้ 6 แต้มในรันนี้ และก็ได้โนอาร์ทำเพิ่มอีก 2 แต้ม

คลิฟแลนด์ไม่สามารถลดช่องว่างได้น้อยกว่านี้ก่อนจบควอเจอร์ "เรารู้สึกว่าเรามีโอกาสแล้ว แต่เราก็ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป" แซลเลอร์ให้สัมภาษณ์ "ผมต้องยกเครดิตให้กับพวกเขาทั้งหมด"

Quote of Game II
"ผมภูมิใจกับพวกเขามาก พวกเขาต่อสู้อย่างหนัก แต่เราก็ยังมีปัญหาบางอย่างอยู่ เราใกล้ที่จะเล่นได้เพอเฟ็คแล้วล่ะ" ไบรอน สก็อต โค้ชทีมคาวาเลีย

ร้อนแรง
คาลอส บูเซอร์นัดนี้เป็นอีกนัดที่สามารถทำ double-double ได้เป็นนัดที่แปดแล้วในฤดูกาลนี้กับ 10 แต้มและ 12 รีบาว เช่นเดียวกับโนอาร์ที่ทำ double-double เป็นครั้งที่แปด และทำให้บูลเก็บชัยชนะเป็นนัดที่สามจากสี่นัดหลังสุด และก็ทำสถิติเกิน 0.500 ได้อีกครั้งกับสถิติ 9-8

วาเรเจาเก็บได้ห้าออฟเฟนซีฟบอร์ด นั่นทำให้เขาขึ้นไปมีคะแนนนำด้วยสถิติ 110 ครั้งเข้าให้แล้ว "ผมรู้ว่าพี่เขาเป็นคนที่น่ารักมาก แต่เขาก็น่ารักไม่ต่างกัน" โนอาร์พูดไปยิ้มไป "คนบราซิลก็มักจะน่ารักอย่างนี้แหละ"

ไม่ไหวแล้ว
อลองโซ่ กี สมอลฟอเวิร์ดของคาวาเลียถูกโค้ชวิจารย์อย่างหนักเรื่องเกมรับที่ไม่ดีเอาซะเลย "ผมต้องบอกเขาว่า ผมรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้" โค้ชอธิบาย "ผมต้องเรียกเขาออกมาตักเตือน บอกให้เขารออยู่ข้างสนามซักพัก แล้วผมค่อยส่งเขาลงไปเล่นอีกที" --

เจเรมี่ ปาร์โก้ พ้อยการ์ดของคาวาเลียก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเอาซะเลยเมื่อชู้ตลงไป 3 จาก 12 ครั้งเท้านั้น ซึ่งเรื่องดีเรื่องเดียวของเขาคือการทำแอสซิสไป 4 ครั้งใน 29 นาที คาวาเลียทำสถิติได้เพียง 2-7 เมื่อต้องสูญเสียรูกกี้ออฟเดอะเยียร์ของเอ็นบีเออย่าง Kyrie Irving จากการบาดเจ็บที่นิ้วเท้าซ้ายจากเกมที่พบกับดัลลาสเมื่อเดือนที่ผ่านมา

Quote of Game III
"พวกเรารู้ว่ามาร์โก้เล่นได้ เขาต้องหาจังหวะการเล่นของเขาให้ได้ และผมต้องใช้เขาลงเล่น มันต้องใช้เวลาแต่เราก็จะต้องรอ"

ทำได้ดี
ทอม ทิโบดูตัดสินใจใช้เบลิเนลลี่ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นเกมที่สอง หลังจากที่ริป แฮมิลตันได้รับการบาดเจ็บ โดยที่ยังไม่เลือกใช้จิมมี่ บัตเลอร์หรือเนต โรบินสัน และเบลิเนลลี่ก็ตอบแทนความไว้ใจให้อย่างดีเยี่ยมเมื่อส่องไป 4 ลูก 12 แต้มให้กับบูลใน 14 นาทีแรก ซึ่งทำให้บูลออกนำไป 31-14 แต้ม

"มาร์โก้เป็นผู้เล่นที่ชูตแม่นอยู่แล้ว ซึ่งเราก็แค่ให้โอกาสเขาออกไปเล่น" ทิโบดูกล่าว "เขาทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวันอยู่แล้ว"

ทำได้ไม่ดี
โนอาร์ต้องพักเมื่อโดนเทคนิเคิลฟาวในต้นควอเตอร์สี่ ทำให้ต้องส่ง แทจ กิปสันลงมาแทน "มันคงถึงเวลาแล้วที่ผมต้องพูดเรื่องนี้บ้าง ซึ่งพวกเราต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น" ทิโบดูให้มัมภาษณ์.....

ปาร์โก้มาเสียฟาวอย่างไม่น่าเสียเมื่อเขาเขวี้ยงบอลกลับหลังแล้วมาโดนหน้าเบลิเนลลี่อย่างจัง "มันมีเลือดออกมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ผมโอเคแล้ว" เบลิเนลลี่ให้สัมภาษณ์

อดเล่น
หลังจากการไม่มีแฮมิลตัน ก่อนเกมทิโบดูก็บอกว่า "เขาจะลงเล่นไม่ได้หนึ่งหรือสองสัปดาห์" ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ 13 ปีมาได้รับบาดเจ็บในเกมที่เจอกับฟิลาเดเฟีย

ดิออน เวทเตอร์ ชูตติ้งการ์ดรูกกี้ของคาวาเลียก็ลงเล่นไม่ได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บเช่นกัน

เออวิ่งได้เริ่มกลับมาชูตเล่นได้แล้วก่อนเริ่มเกม แต่เขายังไม่สามารถกลับมาเล่นได้จนกว่าจะถึงกลางเดือนธันวาคม

เควิน โจน พาวเวอร์ฟอเวิร์ดจากเวส เวอจิเนียที่คาวาเลียไม่ยอมดร้าฟเข้ามาเป็นรูกกี้ในตอนแรก ก็พร้อมที่จะลงเล่น โดยมีชื่ออยู่ข้างสนามแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาส

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข่าวอาการบาดเจ็บของโรส

เขียนโดย JayPatt
แปลโดย Tiger Sky
ที่มา http://www.blogabull.com



จากการปิดเทอมยาวของโรสจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ตอนนี้ทางทีมบูลได้รายงานว่าโรสใกล้ที่จะกลับมาซ้อมได้แล้ว

โรสได้บาดเจ็บไปตั้งแต่เกมแรกของรอบเพลย์ออฟรอบแรกที่พบกับซิกเซอร์ตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งขณะนี้เขาได้กลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว และก็ได้มาการทำออกมาเป็นซีรีของอาดิดาสที่เรียกว่า "The Return"

จากการที่เขาเริ่มผ่าตัด ตอนนี้เขาเริ่มออกมาเริ่มสปริ้นได้บ้างแล้วที่ Berto Center เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นผู้จัดการทั่วไปของบูล นายการ์ ฟอร์แมนได้ถามว่าเขาจะกลับมาเริ่มซ้อมได้เมื่อไหร่ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะบอกวันเวลาที่แน่นอนได้

ซึ่งถ้าโรสได้กลับมาเริ่มซ้อมได้ประมาณช่วงคริสมาส เราก็มีปัญหาใหญ่อีกว่าเขาจะสามารถกลับมาลงเล่นได้อีกทีเมื่อไหร่ ซึ่งบูลต้องมั่นใจว่าเขาพร้อมจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าปล่อยให้โรสกลับไปวิ่งเล่นในสนามอีกเป็นแน่

_________________________________________________
ผู้แปล :
ผมว่าไม่ต้องรีบหรอก ใจเย็นๆ ผลงานของบูลตอนนี้ถึงจะไม่ค่อยดีมาก แต่ก็น่าจะพอประคองไปได้ให้อยู่ในพื้นที่เพลย์ออฟ พอโรสกลับมาก็น่าจะเป็นส่วนเติมเต็ม เป็นคนทำให้กระทิงบูลตัวนิ่งวิ่งฉิวอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ก็กระท่อนกระแท่นไปก่อนแล้วกัน

ตัวอย่าง The Return


วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Indiana Pacer vs Chicago Bulls Review


เขียนโดย Jeff Mezydlo
แปล/เรียบเรียงโดย Tiger Sky
ที่มา http://www.nba.com/games/20121204/INDCHI/gameinfo.html

เมื่อผู้เล่นตัวสำตัญของทั้งสองทีมยังไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้จากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้ทั้งบูลและเพเซอร์ต้องพยายามอย่างหนักที่จะรักษาฟอร์มของตัวเองไว้ให้ได้

เพื่อชัยชนะนัดที่สามติดต่อกัน โดยที่ไม่มีการ์ดตัวจริงในการเปิดบ้านพบกับทีมอินเดียน่า เพเซอร์

บูลมีสถิติอยู่ที่ 8-7 ต้องพยายามอย่างหนังเมือเดอริก โรสยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็สามารถชนะสามในสี่เกมหลังสุด(หนึ่งเกมที่แพ้ไปนั้นน่าเขกกะโหลกสุดๆ) แถมเกมนี้ยังจะไม่มีริป แฮมิลตัน ชูตติ้งการ์ดประสบการณ์สูงที่ต้องไปช่วยโรสจีบพยาบาลหลังจากที่นัดล่าสุดได้รับการบาดเจ็บบริเวณเท้าซ้าย

เขาทำคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 13.9 แต้ม และนัดล่าสุดก็ฝืนสังขาลลงมาชูตจุดโทษลงไป 3 จาก 4 ครั้งภายในเวลา 20 วินาทีช่วงท้ายเกม ถึงแม้ว่าเขายังเจ็บอยู่ก็ตาม ทำให้นัดนั้นริปทำไปคนเดียว 15 แต้มช่วยให้บูลเฉือนชนะซิกเซอร์ไปอย่างสุดมันด้วยคะแนน 93-98

เมื่อริปไม่สามารถลงเล่นได้ บูลก็ไม่ได้หวั่นใจแต่อย่างใดเมื่อมีทั้งเบลิเนลลี่และบัตเลอร์ที่คอยจ้องเสียบในตำแหน่งนี้อยู่

ลูอัล แดงให้สัมภาษณ์ว่า "ตลอดสามปีที่ผ่านมากับโค้ชของเรา(ทอม ทิมเบอดู) เราสามารถผ่านไปได้ในแต่ละฤดูกาลด้วยการเล่นเป็นทีม ผมเชื่อว่าทีมของเราจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีก หลังจากที่ผ่านไป 20 เกมแล้วเราจะแสดงให้ดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง"

แดงนั้นทำไป 25 แต้ม 7 แอสซิสและ 7 รีบาวในขณะที่บูเซอร์และโนอาร์ทำแต้มไปคนล่ะ 12 แต้ม และบูลก็ชูตสามแต้มไป 12 ครั้งลงไป 3 ครั้ง การรีบาวก็อยู่ที่ 50 ต่อ 37 ครั้ง ซึ่งนัดก่อนหน้านี้ก็เพิ่งชนะดัลลัส เมฟเวอริกไป ทำให้เป็นชัยชนะนัดที่สองติดต่อกันในบ้านครั้งแรกของฤดูกาล

ทิมเบอดูให้สัมภาษณ์ว่า "สิ่งที่เราต้องพัฒนาในตอนนี้คือ การเคลื่อนที่ให้ถูกที่ถูกทาง เราไม่สามารถที่จะให้ใครลงเล่น 48 นาทีได้ เราต้องมีความยืดหยุ่นมากกว่านี้ เราเล่นเกมรับได้ดี แต่เราต้องมีความเสมอต้นเสมอปลายด้วย"

บูลเป็นทีมหนึ่งที่เล่นเกมรับได้ดีมาก ซึ่งสามารถทำให้เพเซอร์มีแต้มเฉลี่ยเมื่อเจอกับบูลอยู่ที่เพียง 92.4 แต้มต่อเกม และชูตลงอยู่ที่ 42.0% ซึ่งบูลชนะไป 14 ใน 16 เกมหลังที่เจอกันในบ้าน ในขณะที่แดงมีแต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 19.5 แต้มชูตลง 49.1% และลงเล่นไป 13 เกมจาก 16 เกมเหล่านั้น

อินเดียน่านัดนี้จะเล่นโดยไม่มีแดนนี่ แกรงเกอร์ ที่ได้รับการบาดเจ็บที่หัวเข่าและต้องพักรักษาอารการบาดเจ็บถึง 2 เดือน เกมรับของเพเซอร์เสียแต้มไป 90.9 แต้มต่อเกมซึ่งสถิติแพ้ชนะของเพเซอร์เกือยจะเป็น 50-50 เมื่อเกมรุกเขาก็ทำแต้มได้เฉลี่ย 91.9 แต้มขณะที่มีสถิติรีบาวที่สูงมากในลีกอยู่ที่ 47.4 ครั้ง

เพเซอร์ชนะมาแล้ว 2 เกมติดต่อกันและเก็บชัยชนะได้ 5 จาก 7 เกมหลังสุดก่อนที่จะไปแพ้โกลเดนสเตด วอริเออร์มา 103-92 เดวิด เวสทำไป 23 แต้ม จอร์จ ฮิล 19 แต้มในขณะที่พอล จอร์จชูตพลาดไป 7 ครั้งทำให้นัดนี้เขาไม่สามารถทำแต้มได้เลย แถมยังรีบาวได้น้อยที่สุดในฤดูกาลนี้คือ 36 ครั้ง

แต่เกมนี้เพเซอร์จะได้ตัวเวสกลับมาช่วยที่ทำแต้มเฉลี่ย 17.8 แต้มต่อเกม เพื่อมาแบ่งเบาภาระการทำแต้มของเกรนเกอร์ ซึ่งมีสถิติ 23 แต้มและชูตลง 58% ในหกเกมหลังสุด

แฟร้ง โวเกล โค้ชของเพเซอร์บอกว่า "เขาเล่นได้เหมือนอยู่ในระดับผู้เล่นออลสตาร์แล้วในตอนนี้ เราไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว"

อย่างไรก็ตาม เวสทำแต้มได้เพียง 11.4 แต้มและ 32.4% ในการชูตเท่านั้นใน 5 เกมหลังสุดที่เจอกับบูล

อาการบาดเจ็บเบาๆ ของริป แฮมิลตัน

อาการบาดเจ็บเกิดจากการลงผิดท่าไปหน่อยของแฮมิลตันในควอเตอร์ที่สามที่เจอกับซิกเซอร์ในเกมที่ผ่านมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บอาการที่เรียกว่า Plantar Fascia หรือเอ็นข้อเท้าอักเสบ แต่มันไม่ใช่ข่าวร้ายอะไร

เอ็นข้อเท้าอักเสบ เป็นอาการเจ็บบริเวณฝ่าเท้า อาจจะต้องพักอย่างมาก 1 เดือน ซึ่งการแพทย์ปัจจุบันอาจทำให้หายได้เร็วกว่านั้น ซึ่งนี่ไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่ซีเรียสอะไร โดยที่แฮมิลตันอาจจะกลับมาภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์นี้เลยก็ได้

ทีมบูลเชื่อว่าอาการบาดเจ็บนี้จะทำให้ริปหายจากสนามไปไม่นาน โดยมีตัวอย่างจากเจม จอห์นสัน ในสมัยที่เคยอยู่ทีมบูลส์ก็เคยมีอาการบาดเจ็บแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งเขาก็หายเจ็บได้ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์



จากการบาดเจ็บของริป เขาก็จะถูกทดแทนด้วยมาร์โก้ เบลิเนลลีและจิมมี่ บีตเลอร์เพื่อเล่นในตำแหน่ง SG (shooting guard) แต่ก็นะ ไม่มีใครอยากมีผู้เล่นเจ็บในทีมหรอก แต่ก็เป็นโอกาสของเบลิเนลลี่ได้ลงเล่นมากขึ้นในแต่ล่ะเกม ซึ่งทอม ทิมเบอร์ดูก็ให้เขาลงแทนตำแหน่งของแฮมิลตันอยู่แล้ว และสถิติของเบลิเนลลี่อยู่ที่ 5 แต้มต่อ 14.7 นาที ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของทีมอยู่ 7 แต้ม แต่เขาก็สามารถชูต 3 แต้มได้แม่นยำมากกว่า 40% เลยทีเดียว

หรืออีกตัวเลือกหนึ่งก็เป็นจิมมี่ บัตเลอร์ ที่ฤดูกาลนี้เล่นได้แข็งแกร่งมาก และยังลงเล่นบ่อยๆ เพื่อสัปเปลี่ยนกับผู้เล่นในแนวรับ บัตเลอร์นั้นสร้างชื่อมาด้วยเกมรับ แต่เมื่อมีโอกาสเหมาะๆ เขาก็สามารถชูตทำแต้มได้ดีไม่แพ้กัน โดยค่าเฉลี่ยนอยู่ที่ 5.4 แต้มต่อ 15.9 นาที โดยเปอร์เซ็นต์การชูตอยู่ที่ 52.9% และการชูตสามแต้มอยู่ที่ 14.3% ซึ่งฤดูกาลนี้เขาเพิ่งชูตไปแค่ 7 ลูกเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็เป็นลูกที่สำคัญที่ชูตได้ในควอเตอร์ที่ 4 ในเกมที่พบกับซิกเซอร์ที่ผ่านมา

ซึ่งนอกเหนือจากนี้ก็คงไม่น่าจะเกิดขึ้น อาจจะมีตัวเลือกอีกสองตัวอย่างเจนเนโร ปาร์โก้และเควนติน ริชาร์ตสัน ซึ่งทั้งสองคนนี้น่าจะเป็นตัวเลือกแห่งอนาคตมากกว่า

เมื่อวันเสาร์(เช้าวันอาทิตย์) ที่ผ่านมา แฮมิลนันบอกว่า ตอนที่เขาร่วงลงมานั้น เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดัง "ป็อป"

"ผมจึงจำเป็นต้องไม่ทิ้งน้ำหนักลงเท้านั้นมาก เพื่อที่จะลองมาลงเล่นต่อในเกมให้ได้ ผมรู้ว่าตอนนี้ผมไม่ 100% แล้ว แต่ผมยังคิดว่าน่าจะยังพอช่วยทีมพอได้อยู่ ตอนที่ผมกระโดดขึ้นและตกลงมานั้น ผมก็ได้ยินเสียงเล็กๆ มาจากฝ่าเท้าของผม มันดูน่ากลัวมาก และตอนนั้นก็ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย ผมคิดเลยว่าหรือมันอาจจะเป็นการเจ็บหนัก และพอมันเกิดขึ้นผมก็เริ่มรู้สึกกลัวมาก ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากจะกดดันตัวเอง แต่ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย ตอนแรกโค้ชยังไม่ต้องการให้ผมลงเล่นในทันที แต่ผมอยากลงเล่น ผมบอกว่า 'ผมดีแล้ว, ผมดีแล้ว' ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นหนักขนาดไหนจนกว่าจะได้ไปให้หมอได้ตรวจอีกที"

______________________________________________________
ผู้แปล :

ผมว่าการจากไปของริปนี้จะไม่ส่งผลต่อทีมบูลมาก เพราะยังพอมีผู้เล่นที่สามารถทดแทนตำแหน่งของริปได้ดีอย่างเบลิเนลี่, เนต โรบินสันก็พอได้, จิมมี่ บัตเลอร์ก็เล่นแทนได้ อาจจะดีกว่าด้วยเพราะบัตเลอร์มีจุดเด่นที่เกมรับด้วย และอีกอย่างช่วงเกมหลังๆ ริปก็ไม่ได้ลงเล่นแบบบ้าพลังเหมือนตอนสมัยหนุ่มๆ แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะมีตัวสำรองพวกนี้คอยสับเปลี่ยนหมุดเวียนกันตลอด

อาจจะส่งผลบ้าง แต่ไม่มาก แต่การขาดริปไปก็ทำให้ขาดตัวทำแต้มไปอีกหนึ่งคน แต่ผมว่าด้วยศักยภาพของทีมบูล น่าจะจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยาก จากที่ดูมาหลายๆ นัด ตัวสำรองของบูลทั้งสามคนที่กล่าวมาก็สามารถทดแทนตำแหน่งตัวจริงได้ดีมากๆ ไม่ต้องห่วงครับ



เขียนโดย Sam Smith
ที่มา http://blogs.bulls.com/
แปล/เรียบเรียง โดย Tiger Sky